เรื่องราวของสี มีน้อยคนที่รู้จัก
เคยได้ยินเรื่องราวของ สี กันมาบ้างหรือเปล่า ถ้าหากจะดูตามลักษณะนิสัยของคนในยุคปัจจุบันคำว่าหาคนและอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอง จึงไม่แปลกเลยที่บางครั้งเวลาพูดถึงเรื่องของสีขึ้นมาคนส่วนใหญ่จะพยายามตามหาความหมายหรือสิ่งที่ต้องการจะสื่อถึงตัวเอง เพื่อที่จะได้รู้ว่าตัวเองนั้นเป็นคนแบบไหนหรือเป็นคนอย่างไร
แต่ใครจะคิดว่าเอาเข้าจริงๆแล้วมีบางเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่น้อยคนนักจะรู้ และจริงๆก็ควรที่จะต้องทำความเข้าใจดูบ้าง เพราะถ้าหากว่าเคยได้ยินเรื่องของ จิตวิทยาแห่งสี ก็คงจะเข้าใจว่าสิวไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่จะมีอะไรบ้างนั้นมาดู
สีที่ไม่ชอบ สามารถส่งผลต่อชีวิต
เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องที่น้อยคนนักจะทราบหรือพอจะรู้กันบ้าง ว่าจริงๆแล้วการที่เรามีสิ่งที่ไม่ชอบนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญและควรจะแก้ไข เพราะจริงๆแล้วสิแบบนี้ดูจะเป็นสิ่งที่ทำให้มองเห็นข้อบกพร่องได้ชัดเจนมากที่สุด ตามหลักจิตวิทยาของสีสิ่งที่สามารถบอกได้คือสีที่ไม่ชอบ เป็นสีที่สามารถบ่งบอกลักษณะนิสัยที่บกพร่องของเราได้ดี ยิ่งเป็นช่องโหว่ในตัวเองยิ่งสามารถจะเห็นเรื่องนี้ได้ชัดขึ้น
และถึงขั้นที่สามารถบ่งบอกได้ว่าความเจ็บปวดในอดีต หรือเรื่องราวที่ไม่ดีในอดีตมีผลต่อสิ่งที่ไม่ชอบด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้ารู้ถึงจุดอ่อนของตัวเองในด้านนี้ก็ควรที่จะต้องรีบแก้ไขอย่างรวดเร็ว
สีที่ชอบเปลี่ยนได้หรือไม่
และเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่กล้าบอกได้เลยว่าสีที่ชอบนั้นสามารถเปลี่ยนได้จริง สามารถสังเกตได้จากบางคนที่ในช่วงแรกๆอาจจะชอบสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ แต่ไม่พอเวลาผ่านไปสักพักจะรู้สึกว่าสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่ชอบอีกต่อไปอาจจะมองเห็นสีอื่นๆที่ดูจากตอบโจทย์โดยตรงกับความชอบของตัวเองมากกว่า โดยเฉพาะสิ่งที่สังเกตได้ง่ายที่สุดก็คงจะเป็นเด็ก เพราะเห็นว่าเด็กนั้นจะมีการเปลี่ยนสีที่ชอบกินตลอดเวลา
หากจะถามว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไร สิ่งที่บอกได้เลยก็คือ การเปลี่ยนแปลงความชอบของสีมีผลมาจากสภาพแวดล้อมหรือปัจจัยความชอบโดยรวมบริเวณรอบตัว ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ในวัยเด็ก เด็กๆหลายคนอาจจะชอบสีสันที่มีความสดใสแต่เมื่อโตขึ้นจะเห็นได้ว่าปัจจุบันเรื่องราวหรือสิ่งต่างๆกับสามารถส่งผลได้เยอะทีเดียว จึงทำให้เด็กบางคนเปลี่ยนจากการชอบสีสันแบบธรรมดากลายไปเป็นชอบสีที่อยู่ในโทนสีมืดหรือโทนสีทึบ
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคนเพราะแต่ละคนนั้นอย่างที่บอกว่าเมื่อมีความชอบไม่เหมือนกันแล้ว มุมมองหรือทัศนคติบางอย่างที่มีอยู่ก็สามารถส่งผลได้โดยการใช้หลักจิตวิทยาของสีมาเป็นตัวกำหนดที่สำคัญ แล้วจะเห็นได้ชัดว่าแพทย์หลายๆคนมีมุมมองที่เรียกได้ว่า see you จะเป็นตัวกำหนดของหลายๆอย่าง